😍TUTOR😍

1. When you check your bill at the restaurant, you find you have been overcharged. You say to the waiter, “___________”

1. Bill, please.  2. I want another bill.  3. You are cheating me. 
4. There is too much to pay.  5. I think there has been a mistake.
1 .เฉลยข้อ 5 เพราะเป็นการตำหนิหรือบ่นอย่างสุภาพ (Polite Complaint)
2. One of your classmates has won a scholarship to study abroad. You congratulate her by saying, “___________”

1. I can’t believe it.  2. Very well. How did it go? 
3. Cheers. Better me than you. 
4. Amazing. I never expected so much. 
5. Well done. I’m very happy for you.
2.เฉลยข้อ 5 เพราะเป็นการแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ  คำตอบอื่นมีความหมายที่ไม่ถูกต้อง

3. A policeman fines to a woman who has just thrown an empty plastic bottle on the street. The woman say, “___________”

1. Are you sure?   2. How can I help you?   3. What did I do wrong? 
4. What’s the matter with you?   5. Do you have a problem with me?

3.เฉลยข้อ 3 เพราะผู้พูดไม่รู้ว่าทำอะไรผิดหรืออาจจะรู้ว่าทำผิดแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้

4. Someone offers you a glass of wine. You say, “___________”

1. Let me find out.  2. Sorry, I don’t drink.  3. That would be funny. 
4. I apologize for drinking. 5. Why you do this to me?

4.เฉลยข้อ 2 เพราะเป็นการตอบปฏิเสธที่สุภาพ

5. A customer in an electronics store asks the salesperson if the camera can be used to take pictures of coral in the sea. The salesperson, wanting to make a sale, says, “_____”

1. I’m not sure.  2. Always keep it handy.  3. Sure, it’s waterproof. 
4. Of course, it’s washable.  5. I doubt if it’s automatic.

5.เฉลยข้อ 3 เพราะเป็นคำพูดชักจูงลูกค้าโดยคำว่า waterproof  ซึ่งแปลว่ากันน้ำได้

6. A police officer is chasing a robber and wants him to stop. He shouts, “________”

1. Cool!   2. Stand up!   3. Sit down!  4. Freeze!  5. Calm down! 
6.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นคำสั่งเด็ดขาดของตำรวจ
7. Mother sees blood on your finger. She asks what happened. You say, “Oh, it’s not serious. ________”

1. I’m about to faint.  2. The knife hurt me.  3. My finger is painful. 
4. I just cut myself.  5. Will I die, Mom?
7.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นการพูดเพื่อให้ผู้ฟังเห็นว่าเป็นเรื่องไม่รุนแรงโดยใช้คำว่า just  ซึ่งแปลว่า  แค่นี้เอง หรือเล็กน้อย

8. A father is teaching his son that he must work hard and make sacrifices to be successful. He sums up his lecture by saying, “________”

1. All work and no play make Jack a dull boy. 
2. Time and Tide waits for no man.
3. Take time to smell the flowers.   
4. Curiosity killed the cat.   
5. No pain, no gain.
8.เฉลยข้อ  5 เพราะเป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า ถ้าไม่ลำบากก็ย่อมไม่พบความสำเร็จ

9. Leaves and dead branches from your neighbor’s tree always fall in your backyard. You tell your neighbor, “________”

1. Can you move away? 
2. I’m sick of your leaving. 
3. Could you trim the branches?
4. You are welcome to take leaves. 
5. Will you please keep your tree to yourself?
9.เฉลยข้อ 3 เพราะเป็นการขอร้องอย่างสุภาพ
10.A mother is teaching her children about table manners and says, “________”     

1.You should eat vegetables.     
2.You should help me set the table. 
3.You should eat three meals a day.   
4.You should not chew with your month open.   
5. You should not invite your friends over for dinner.

11.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นการตักเตือนมารยาทในการรับประทานอาหาร  ส่วนข้อเลือกอื่นไม่ใช่มารยาท ในขณะรับประทานอาหาร

12. Mario wants to sell the car__________he bought last year.

 1. it   2. that    3. he    4. who
12.เฉลยข้อ 2 that แปลว่า ที่, ซึ่ง Mario wants to sell the car that he bought last year. มาริโอต้องการขายรถที่ได้ซื้อไว้ในปีที่แล้ว thatเป็น Relative pronoun ที่ใช้แทนคำนามที่เราต้องการกล่าวซ้ำ โดยใช้แทนคำนามที่ เป็นสัตว์หรือสิ่งของ ในที่นี้แทนคำว่า the car

13. While I__________to the radio, I heard a loud scream.

1. listen   2. has listened   3. was listening   4. had listened 

13.เฉลยข้อ 3 was listening While I was listening to the radio, I heard a loud scream. ในขณะที่ฉันกำลังฟังวิทยุฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก “ฉันกำลังฟังวิทยุ” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous (รูปกริยาwas/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 1 listen (Present Simple) ข้อ 2 has listened (Present perfect) ข้อ 4 had listened (Past Perfect)

14. She__________here since she was ten years old.

1. lived   2. has lived   3. had lived   4. had been living

14.เฉลยข้อ 2 has lived She has lived here since she was ten years old. หล่อนเคยอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่หล่อนอายุ10 ปี เป็นประโยคที่บอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน นั่นคือ หล่อนอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 10 ปี และปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นต้องใช้ Present perfect รูปกริยา have, has + past participle (V3) และประโยคนี้ใช้ since เป็นตัวขยายบอกเวลา ซึ่ง since (แปลว่า ตั้งแต่) เป็นการบอกเวลา เริ่มต้นของเหตุการณ์ สิ่งที่ตาม since อาจระบุเป็น เวลา หรือ วัน หรือ เดือน หรือ ปี หรือ เป็นประโยคที่บอกถึงเหตุการณ์ที่บอกให้รู้ว่า เหตุการณ์หรือการกระทำที่กล่าวถึงนั้นเกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อใด โดยที่ประโยคที่ตามหลังsinceต้องอยู่ในรูป Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 1 lived (Past Simple) ข้อ 3 had lived (Past Perfect) ข้อ 4 had been living (Past Perfect Continuous)

15. When the policeman__________, the thief had already gone.

1. arrived   2. was arriving   3. has arrived   4. had arrived 

15.เฉลยข้อ 1 arrived When the policeman arrived , the thief had already gone. เมื่อตำรวจมาถึงโจรก็ไปแล้ว ในกรณีนี้ต้องใช้ Past Simple เพราะเหตุการณ์ที่ตำรวจมาถึงเกิดหลังจากเหตุการณ์ที่โจร ไปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงก่อนใช้ Past Perfect รูปกริยา had+ past participle (V3) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงทีหลังใช้ Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 2 was arriving (Past Continuous) ข้อ 3 has arrived (Present Perfect) ข้อ 4 had arrived (Past Perfect)

16. She enjoys__________ very much.

1. dance   2. dances   3. to dance   4. dancing

16.เฉลยข้อ 4 dancing She enjoys dancing very much. เธอสนุกกับการเต้นรำมากๆ หลัง enjoy ต้องตามด้วย Gerund (V+ing) เท่านั้น

17. Have you got __________cigarettes? Of course.

1. any   2. a lot   3. some   4. little

18.เฉลยข้อ 1 any บ้าง,จำนวนหนึ่ง Have you got any cigarettes? Of course. คุณมีบุหรี่บ้างไหม? มี any บ้าง,จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยค คำถามและประโยคปฏิเสธ ข้อ 2 must ต้อง ข้อ 3 some บ้าง,จำนวนหนึ่งใช้กับคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า ข้อ4 little ปริมาณเล็กน้อย (little + นามนับไม่ได้)

19. There are two men in the street. __________of them have a gun in their hands.
 
1. All   2. Every   3. Both   4. A lot of

19.เฉลยข้อ 3 Both ทั้งสอง There are two men in the street. Both of them have a gun in their hands. มีผู้ชายสองคนอยู่บนถนนพวกเขาทั้งสองคนมีปืนอยู่ในมือ ข้อ 1 All ทั้งหมด ข้อ 2 Every ทุกๆ ข้อ4 A lot of จำนวนมาก

20. If I __________ to the party last night, I would have sung and danced with my friends.

1. go   2. went   3. had gone   4. have gone

20.เฉลยข้อ 3 had gone If I had gone to the party last night, I would have sung and danced with my friends. ถ้าฉันไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ฉันก็จะได้ร้องเพลงและเต้นรำกับเพื่อนๆ ประโยคเป็น If clause Type 3 ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จากประโยคนี้ แสดงว่าผู้เขียน(I)ไม่ได้ไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ก็เลยไม่ได้ร้องเพลงเต้นรำกับเพื่อนๆ โครงสร้างประโยค If + Past Perfect (had+V3) , would + have + past participle (V3) ข้อ 1 go (Present Simple) ข้อ 3 went (Past Simple) ข้อ 4 have gone (Present Perfect)
21. When I saw him yesterday, he was __________on a chair. 

1. sit  2. sits   3. sitting   4. sat

21.เฉลยข้อ 3 sitting When I saw him yesterday, he was sitting on a chair. ตอนที่ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก “เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันเห็นเขา” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous (รูปกริยา was/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple รูปกริยาpast (V2)

22. We have been here __________two months.

1. in   2. before   3. since   4. for
22.เฉลยข้อ 4 for We have been here for two months. พวกเราอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองเดือนแล้ว for แปลว่า เป็นเวลา ใช้บอกระยะเวลาที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ข้อ 1 in ใน ข้อ 2 before ก่อน ข้อ 3 sinceตั้งแต่

23. Sarah and Nawinta __________ want a big wedding.

1. isn’t   2. don’t   3 .aren’t   4. doesn’t

23.เฉลยข้อ 2 don’t Sarah and Nawinta don’t want a big wedding. Sarah และ Nawinta ไม่ต้องการงานแต่งงานแบบใหญ่โต การทำประโยคให้เป็นปฏิเสธ ทำได้โดย นำ not ไปวางไว้หลังกริยาช่วย แต่ประโยคนี้ไม่มี กริยาช่วย มี want เป็นกริยาแท้ของประโยคแล้ว กรณีที่ประโยคไม่มีกริยาช่วย ต้องนำ Verb to do มาช่วย ประโยคนี้พูดถึงข้อเท็จจริง ใช้โครงสร้าง Present Simple (รูปกริยา Verb 1) และมีSarah and Nawinta เป็นประธานพหูพจน์ดังนั้น Verb to do ที่นำมาช่วยจึงต้องใช้ do มาช่วยในการทำเป็นปฏิเสธ

24. The post office usually __________ at 5.30 pm.

1. close  2. closes  3. closed  4. closing

24.เฉลยข้อ 2 closes The post office usually closes at 5.30 pm.โดยปกติที่ทำการไปรษณีย์ปิดห้าโมงครึ่ง ประโยคนี้เป็น Present Simple สังเกตจาก usually ดังนั้น กริยาต้องเป็น Verb 1 และ The post office เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 close จึงต้องเติม s เป็นcloses

25. If you heat water, it__________.

1. boil  2. boils  3. boiled  4. boiling

25.เฉลยข้อ 2 boils If you heat water, it boils. ถ้าคุณต้มน้ำ มันก็เดือด เป็น If Clause Type 1 ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง โครงสร้าง If + Present Simple (V1), Present Simple (V1)

26. Those shirts __________expensive. I don’t need to buy them.

1. is  2. are  3. has  4. have

26.เฉลยข้อ 2 are Those shirts are expensive. I don’t need to buy them. เสื้อเชิ้ตเหล่านั้นราคาแพงจัง ฉันไม่อยากซื้อมันเลย ตามโครงสร้าง Sub.+Verb to be + Adj. Those shirts เป็นประธานพหูพจน์จึงต้องใช้ are

27. My mom __________ coffee every morning.

1. drink  2. don’t drink   3. doesn’t drink   4. have drunk

27.เฉลยข้อ 3 doesn’t drink My mom doesn’t drink coffee every morning. แม่ของฉันไม่ดื่มกาแฟทุกเช้า สังเกตจากคำว่า every morning บอกให้รู้ว่า ประโยคเป็น Present Simple รูปกริยา V1 My mom เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s (does ก็คือ doเติม es)

28. This is not an easy question __________ answer.

1. to  2. for  3. that  4. with

28.เฉลยข้อ 1 to This is not an easy question to answer. คำถามนี้มันไม่ง่ายที่จะตอบ เป็นการใช้ to + infinitive ที่รูปประธานกลายเป็นกรรม ของ to infinitive คำนาม หรือ คำสรรพนาม ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานของรูป linking verb (กริยาที่ใช้เชื่อม ประโยค) + คำคุณศัพท์ (adjective) สามารถใช้เป็นกรรม (objective) ของกริยา to infinitive ที่ตามมา ในภาคส่วนเติมเต็ม (complement) ของประโยค เช่น Science programmes are so interesting to watch. รายการวิทยาศาสตร์มันน่าสนใจที่จะดู These nuts are good to eat ถั่วเหล่านี้มันดีที่จะกิน

29. If the teacher__________too fast, students won’t understand.

1. explain  2. explains  3. explained  4. had explained

29.เฉลยข้อ 2 explains If the teacher explains too fast, students won’t understand. ถ้าครูอธิบายเร็วเกินไป นักเรียนก็จะไม่เข้าใจ (won’t = will not) เป็น If Clause ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกันและเป็นจริงได้ If + Present Simple (V1), Future Simple (will+ V1)

30. Some__________ feel frightened of the dark.

1. boy  2. child  3. children  4. person

30.เฉลยข้อ 3 children Some children feel frightened of the dark.เด็กๆบางคนรู้สึกตกใจกลัวความมืด some หมายถึง จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้ และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า ในที่นี้ children เป็นคำนามนับได้พหูพจน์ ส่วน boy, childและ person เป็นคำนามนับได้เอกพจน์

31. This is my best friend__________always helps me.

1. who  2. that  3. which  4. whom

31.เฉลยข้อ 1 who หมายถึง ผู้ซึ่ง, ผู้ที่ This is my best friend who always helps me. นี้คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันผู้ที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอมา who เป็น Relative pronoun ที่ใช้แทนคำนามที่เราต้องการกล่าวซ้ำ โดยใช้แทนคำนามที่ เป็นคน ในที่นี้ แทน my best friend that และ which ใช้แทนสัตว์ สิ่งของ ส่วน whom ใช้แทนคนในกรณีที่เป็นกรรม

32. Yaya is__________ beautiful than Tukky.

1. as   2. more   3. most   4. the most

32.เฉลยข้อ 2 more Yaya is more beautiful than Tukky. ญาญ่าสวยกว่าตุ๊กกี้ จากประโยคที่กำหนดเป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า สังเกตได้จากคำว่า than Comparative การเปรียบเทียบขั้นกว่า เป็นการเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ประโยคเปรียบเทียบ ขั้นกว่า คำคุณศัพท์ที่ใช้เปรียบเทียบต้องเปลี่ยนเป็น คำคุณศัพท์ขั้นกว่า (Comparative Adjective) โดยการเติม -er หลังคำคุณศัพท์ที่มี 1-2 พยางค์ (มีรายละเอียดปลีกย่อยอีก ควรศึกษาเพิ่มเติม) และใช้ more วางหน้าคำคุณศัพท์ที่มีสามพยางค์ขึ้นไป ดังเช่นข้อนี้ beautiful ต้องใช้ moreส่วน as ใช้เปรียบเทียบเท่ากัน และ the most ใช้เปรียบเทียบขั้นสุด

33.After his several attempts to do his best his position, he decided to embark on a new career.

1.Cancel  2.Begin   3.Choose  4.improve  5.Change

33.เฉลยข้อ 2 begin คำว่า embark on แปลว่า การเริ่มต้นสิ่งใหม่ (start/begin) โจทย์กล่าวว่า "หลังจากความพยายามหลายครั้งที่จะทำงานในตำแหน่งของเขาให้ดีที่สุด เขาก็ตัดสินใจที่จะ'เริ่ม'งานใหม่" 1. cancel ยกเลิก 2. begin เริ่มต้นใหม่ 3. choose เลือก 4. improve พัฒนา 5. change เปลี่ยน เคล็ดลับ บริบทบอกใบ้ให้เราทราบตรงตำแหน่งที่บอกว่า "หลังจากความพยายาม'หลายครั้ง'ที่จะทำงานในตำแหน่งของเขาให้ดีที่สุด" ส่วนนี้แสดงให้เห็นว่า พยายามมาหลายครั้งแล้ว พอ เหนื่อย เริ่มงานใหม่เถอะ

34.As I looked up the mountain, I knew it would be a daunting task to reach the peak.

1.difficult   2. dangerous   3.desirable  4.delightful   5. definite

34.เฉลยข้อ 1 difficult คำว่า daunting แปลว่า สิ่งที่ยากหรือท้าทาย โจทย์กล่าวว่า "เมื่อมองขึ้นไปบนภูเขา ฉันก็รู้ทันทีว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่'ยาก'ที่จะขึ้นไปถึงยอดของมัน"
1. difficult ยาก
2. dangerous อันตราย
3. desirable เป็นที่น่าพ่อใจ
 4. delightful น่าปิติยินดี
5. definite แน่นอน

35.Since his mother's death, tom's been meaning to clean out the clutter in his bedroom.

1. closet 2. dirt 3. drawer  4. curtain  5. mess

35.เฉลยข้อ 5 mess คำว่า clutter ในประโยคนี้แปลว่า สิ่งที่รก/ของที่วางกองระเกะระกะ  โจทย์กล่าวว่า "ตั้งแต่การจากไปของแม่เขา ทอมก็ตั้งใจที่จะทำความสะอาด'สิ่งที่รก/ของที่กองระเกะระกะ'ในห้องนอนของเขาเอง"
1. closet ตู้
2. dirt ฝุ่น
3. drawer ลิ้นชัก
4. curtain ม่าน
5. mess สิ่งที่รก/ของที่กองระเกะระกะ

36.We completely depleted our saving account when we bought our new house in bangkok last month. 

1. earned  2. saved    3. collected 4. emptied 5. shared

36.เฉลยข้อ 4 emptied คำว่า depleted ในประโยคนี้แปลว่า หมดสิ้น/ไม่เหลือ ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกับคำว่า emtied (empty) ที่แปลว่า ว่างเปล่า/ไม่เหลือ  โจทย์กล่าวว่า "เราใช้เงินในบัญชีออมทรัพย์ไปจน'หมด/ไม่มีเหลือ'เมื่อเราซื้อบ้านหลังใหม่ในกรุงเทพเมื่อเดือนที่ผ่านมา" 1. earned ได้รับ 2. saved เก็บไว้ 3. collected รวบรวมไว้4. emptied ว่างเปล่า/ไม่เหลือ 5. shared แบ่งปัน ข้อนี้บริบทชัดเจนมาก คือ ซื้อบ้านในกรุงเทพ ซึ่งแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันแพงหูดับตับไหม้

37.After the devastating fire in june, a number of buildings around the area were still smouldering months afterwards. 

1. opening 2. operating3. smoking 4. exploding  5. melting   

37.เฉลยข้อ 3 smoking คำว่า smouldering ในประโยคนี้แปลว่า มีควัน/คุกรุ่น  โจทย์กล่าวว่า "หลังจากไฟไหม้ครั้งร้ายแรงในเดือนมิถุนายน ตึกจำนวนมากในบริเวณนี้ก็ยังคงมีควัน/คุกรุ่นอยู่หลายเดือนหลังจากนั้น" 1. opening เปิด 2. operating ดำเนินการ 3. smoking มีควัน 4. exploding ระเบิด 5. melting ละลาย

38.exercise can help you relax, boost your confidence and better_____, in addition to the physical benefits of an active_____

1. mood, lifestyle  2. strength, person 3. body, learning  4. thinking, sportswear
38.เฉลยข้อ 1. mood อารมณ์, lifestyle วิถีชีวิต  โจทย์กล่าวว่า "การออกกำลังกายสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลาย เพิ่มความมั่นใจ และทำให้ ___อารมณ์_____ ดีขึ้น นอกเหนือไปจากประโยชน์ทางด้านร่างกายของ ____วิถีชีวิต ____ แบบกระฉับกระเฉง"
2. strength ความแข็งแรง, person บุคคล
3. body ร่างกาย, learning การเรียนรู้
4. thinking การคิด, sportswear ชุดกีฬา
5. behavior พฤติกรรม, job งาน
39.One way to learn english is to watch television shows. you can hear english the way it is_____ spoken and learn useful slang and______ language.

1. appropriately, universal   2. commonly, foreign  3. naturally, informal  4. widely, written   5. specifically, natural 

39.เฉลยข้อ3. naturally อย่างเป็นธรรมชาติ, informal ที่ไม่เป็นทางการ  โจทย์กล่าวว่า "วิธีหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษก็คือการดูรายการโชว์ทางทีวี คุณจะสามารถได้ยินภาษาอังกฤษในแบบที่ถูกพูด ___อย่างเป็นธรรมชาติ_____ และเรียนรู้คำสแลงและภาษา___ที่ไม่เป็นทางการ_____"
1. appropriately อย่างเหมาะสม, universal สากล
2. commonly อย่างธรรมดา, foreign ต่างชาติ
4. widely อย่างกว้างขวาง, written ที่เขียน
5. specifically โดยเฉพาะ, natural ที่เป็นธรรมชาติ
40.fruit and vegetables are rich sources of natural fiber, vitamins and other _____ that your body needs to ______.

1. compounds, frequently  2. minerals, properly 
3. factors, systematically 4. ingredients, effectively
5. genes. powerfully

40.เฉลยข้อ 2. minerals แร่ธาตุ, properly อย่างเหมาะสม  โจทย์กล่าวว่า "ผลไม้และผักอุดมไปด้วยแหล่งใยอาหารทางธรรมชาติ วิตามิน และ ____แร่ธาตุ____ อื่น ๆ ซึ่งร่างกายของคุณจำเป็นต้องใช้เพื่อที่จะทำงานได้ ___อย่างเหมาะสม_____ "
1. compounds สารประกอบ, frequently บ่อย ๆ
3. factors ปัจจัย, systematically อย่างเป็นระบบ
4. ingredients ส่วนผสม (ใช้กับการประกอบอาหาร), effectivelyอย่างมีประสิทธิภาพ
5. genes ยีน, powerfully อย่างมีพลัง

41.bangkok, the city of angels, offers visitors anything they could____: lively nightlife, unlimited shopping option and a_____ of activities and attractions.

1.receive, mixture  2. buy, collection  3. see, selection.  4. find, cluster. 5. expect, variety 

41.เฉลยข้อ 5. expect คาดหวัง, variety หลากหลาย โจทย์กล่าวว่า "กรุงเทพมหานคร เมืองสวรรค์ มอบสิ่งใด ๆ ก็ตามให้กับผู้เยี่ยมชม/นักท่องเที่ยวตามแต่ที่พวกเขาจะสามารถ ____คาดหวัง____ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตยามค่ำคืนที่แสนคึกคัก ตัวเลือกในการช็อปปิ้งที่ไม่จำกัด รวมถึงกิจกรรมและสิ่งดึงดูดใจที่ ___หลากหลาย_____ "
1. receive ได้รับ, mixture ผสมผสาน
2. buy ซื้อ, collection ที่รวมกันเป็นกลุ่ม/ชุด

42.once you begin to plan your spending, you will gain____over it and you will be able to_____some money. 

1.profit, make 2. pleasure, spend  3. experience, count  4.control, save 5. access, lend 

42.เฉลยข้อ 4. control ควบคุม, save เก็บ/ออม โจทย์กล่าวว่า "ทันทีที่คุณเริ่มต้นวางแผนการใช้จ่าย คุณจะสามารถ ____ควบคุม____มันได้ และคุณจะสามารถ ____เก็บ/ออม____ เงินได้ "  1. profitกำไร, make สร้าง  2. pleasure ความสุข/ความพอใจ, spend ใช้  3. experience ประสบการณ์, count นับ  5. access เข้าถึง, lend ให้ยืม
   
43.  Sometimes I think  ……….A………, but I’ve ………B…….. a lot of things.     
A.   1. I am almost so patient         2. I am almost too patient         
3. I am really almost patient          4. I am almost such patient             5. I am nearly almost patient   

B.   1. also that found that patience helps in me    2. also found that patience helps in me           3. also found that patience helps me in    4. found also that patience helps me in    5. found that patience helps me also in 

43.เฉลยข้อ A 2 เพราะการใช้ too + adj. เช่น too patient ใช้เพื่อขยายความหมายของ adj. นั้นๆ เพื่อบอกว่าอดทนมากเกินไป  B 3เพราะ also เป็น adverb (คำกริยาวิเศษณ์) คือ คำที่ใช้ขยาย (Modify) คำกริยา, คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง เพื่อให้ได้ความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น ในที่นี้ขยาย กริยา found สำหรับการเรียง helps me in ตามหลักของกรรม me ตามหลังกริยา helps ส่วนin เป็น preposition ที่สอดคล้องกับ  a lot of things

44. The contest starts ……..A……….and then yells, screams, jumps up and down, puffs, blows,       whistles, or ……….B………to incite the frog to jump.       

A    1. at the “jockey” positions his or her frog         
2. as the “jockey” positions his or her frog       
3. how the “jockey” positions his or her frog   
4. while the “jockey” positions his or her frog     
5. when the “jockey” positions his or her frog       

B     1.does where else is necessary       
2.do whatever else is necessary 
3.do something else is necessary           
4.  does whatever else is necessary   
5.  did whatever else was necessary       

44.เฉลยตอบข้อ A 5 เพราะ when เป็น time connection ที่ใช้กับเวลา B 4 เพราะประธานของประโยค คือ The contest ซึ่งเป็นsingular จึงใช้กริยา does และสอดคล้องกับกริยาที่มีในข้างต้น ซึ่งเป็น parallel verbs ส่วนการใช้ whatever  (อะไรก็ตาม) นั้น whateverเป็นคำนำหน้า noun clause ซึ่งในที่นี้ทำหน้าที่เป็นกรรมของ คำว่าdoes
45.   ……….A……….. some form of silence. ……..B……….silence are dramatically different in         different cultural groups.       

A.  1. Most people throughout the world experience 
2. Most experience people throughout the world 
3. People throughout the world most experience   
4. Throughout the world, most experience people 
5. The most people throughout the world experience         

B.  1.Also, people’s attitudes towards 
2.  Whereas, people’s attitudes towards 
3.  However, people’s attitudes towards   
4.  Therefore, people’s attitudes towards         
5.  As a result, people’s attitudes towards   

45.เฉลยข้อ A 1 เพราะ Most people ตรงกับหลักการใช้ Most + Noun เพื่อบอกจำนวนของสิ่งที่กล่าวถึง ส่วน experience ทำหน้าที่เป็น กริยา จึงต้องตามหลังประธาน  Most people throughout the world  B 3 เพราะ However (อย่างไรก็ตาม) เป็น Conjunctive Adverb ที่ใช้เชื่อมประโยคโดยขึ้นประโยคใหม่ที่แสดงความขัดแย้งกันกับประโยคแรก
46.  Many parents think that ……….A……… difficult as maths, it is OK. ………B………., others      have asked the States Education Department to do something about the matter.     

 A.   1. the book helps students to understand something as   
2. if the book helps students to understand something as         
3. how  the book helps students to understand something as         
4. whether the book helps students to understand something         
5. unless the book helps students to understand something   

 B. 1. Finally 2. Though  3. Whereas  4. Moreover  5. On the other hand

 46.เฉลยข้อ A 2 เพราะ if เป็นการพูดถึงเงื่อนไขซึ่งตามหลังด้วยเครื่องหมาย ( , ) comma และอนุประโยค   (it is OK.)  B 5 เพราะ on the other hand มักใช้พูดถึงความขัดแย้งกันของสถานการณ์ ในขณะที่คำว่า Though แม้จะใช้เชื่อมสิ่งที่ขัดแย้งกันแต่จะอยู่กลางประโยคในรูปดังนี้ He still argues, though he knows he’s wrong.

47.Some people ………A……..and songs of birds. …….B…….. and take notes on their habit.     
A.  1. bird watching just to enjoy the beauty     
2. go bird watching just to enjoy the beauty 
3. going bird watching just to enjoy the beauty
4. who go bird watching just to enjoy the beauty     
5. who go watching bird just to enjoy the beauty     

B.   1.Others list the birds they see 
2.Other lists the birds they see 
3.Another lists the birds they see   
4. Someone lists the birds they see 
5. The others list the birds they see 

47.เฉลยข้อ A 2 เพราะ some people ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค จึงต้องการ verb มารองรับ  B 1 เพราะ some และ othersเป็น pronouns ที่ใช้สอดคล้องกันโดยมีการแบ่งนามออกเป็น 2 กลุ่ม และให้ some แสดงถึงนามกลุ่มหนึ่งใช้ได้ทั้งคำนามได้และนับไม่ได้others หมายถึง นามอีกกลุ่มหนึ่ง

48.  ……..A………., with rules from the pharaohs to Soviet leaders employing astrologers       and mystics …….B…….., and it is an interest that refuses to die out.     

A.  1. Humankind has always interested in divination
2. Humankind always has interested in divination         
3. Humankind has been always interested in divination         
4. Humankind always has been interested in divination         
5. Humankind has always been interested in divination     

B.   1. helps them make important decisions   
2. help them make important decisions               
3. helping them make important decisions     
4. to help them make important decisions         
5. which helps them make important decisions   

48.เฉลยข้อ A 5 เพราะเป็นการใช้ Present Perfect Tense โครงสร้างSubject + have/has + past participle (V.3) การกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งยังคงส่งผลถึงปัจจุบัน  B 4 เพราะ to help เป็นThe Infinitive of Purpose วลีที่แสดงจุดประสงค์) รูปแบบคือ  To + Verb หรือ Verb Phrase (กริยาวลี หรือ กลุ่มคำที่มีกริยาเป็นคำหลัก)

49.Crystal ball gazing seems to be a dying art, maybe ……..A……… but there are still       aficionados who claim that ……..B…….. .     

A.   1. because there are so many old gypsy women at fairgrounds        2. because there are also many old gypsy women at fairgrounds         
3. because there aren’t so many old gypsy women at fairgrounds         
4. because there will be so many old gypsy women at fairgrounds        5. because there won’t be so many old gypsy women at fairgrounds     
B.   1. the most guaranteed way is to predict the future         
2. the most way of predicting the future is guaranteed             
3. it is the most guaranteed way of predicting the future         
4. it is guaranteed the most way of predicting the future         
5. the way of predicting the future is the most guaranteed 

49.เฉลยข้อ A 3 เพราะการใช้รูปปฏิเสธ aren’t so many (ไม่มีมากนัก) สอดคล้องกับประโยคต้น  B 3 เพราะ It  แทน Crystal ball gazing และ ใช้ Superlative Degree เพื่อการเปรียบเทียบขั้นสูงสุดซึ่งใช้สำหรับการเปรียบเทียบตั้งแต่ 3 คน หรือ 3 สิ่งขึ้นไป หรืออาจเป็น ที่สุดในหมู่ เหล่า คณะ พวก

50. Sharing an apartment with people of other cultures is an enriching experience. …….A……..      some problems because people from different cultures …….B……. to misunderstandings      or conflicts.     

A.1. Sometimes leads     2. That it can sometimes lead     
3. When it can sometimes lead     4. So that it can sometimes lead       
5. However it can sometimes lead     

B.   1.  has  different customs and expectations     
2.  have different customs and expectations     
3.  having different customs and expectations 
4.  will be different customs and expectations       
5.  will have different customs and expectations       

50.เฉลยข้อ A 5 เพราะ However (อย่างไรก็ตาม) เป็น Conjunctive Adverb ที่ใช้เชื่อมประโยคโดยขึ้นประโยคใหม่ที่แสดงความขัดแย้งกันกับประโยคแรก  B 2 เพราะประธานของประโยค people from different cultures เป็น Plural และ ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็น fact กริยาของประโยคต้องใช้รูปช่องที่ 1 คือ have

51. Although dinner is the largest meal of the day in some countries, ……..A…….. too much      heavy or fried food, as this can make you put on weight and ……..B……… .     

A.    1. you try to avoid eating   2. you would have tried to eat 
3. you should try to avoid eating    4. you  were trying to avoid eating  5. you shouldn’t try to avoid eating     

B.   1. affect the quality of your sleep     
2. effect the quality of your sleep   
3. affects the quality of your sleep   
4. affecting the quality of your sleep             
5. effecting the quality of your sleep
51.เฉลยข้อ A 3 เพราะเป็นการพูดแนะนำ และเพื่อให้สอดคล้องกับอนุประโยคที่ว่า Although dinner is the largest meal of the day in some countries  B 1 เพราะ มี and  เป็นคำเชื่อมระหว่างคำกริยาmake เพราะฉะนั้นหลัง and จึงต้องเลือกใช้ affect เหมือนกับคำว่า  make ซึ่งอยู่ในรูปของ based form  ข้อแตกต่างระหว่าง- effect (noun) ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งเปลี่ยนแปลง -affect (verb) ส่งผลให้บางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลง

52. Together with six other volunteers from Save the Seas, ………A……, Melanie has been       working with an Indonesian marine research team …….B……. .     

A.   1. a nonprofit charity organization         
2. a nonprofit charitable organization         
3. is a nonprofit charitable organization         
4. of a nonprofit charitable organization         
5. that is a nonprofit charitable organization     

B.   1. surveys the ocean environment         
2. surveyed the ocean environment                 
3. surveying the ocean environment             
4. to survey the ocean environment         
5. has surveyed the ocean environment 
52.เฉลยข้อ A 2 เพราะทำหน้าที่เป็นนามซ้อนนามที่อยู่ข้างหน้า (in apposition) และระหว่างนามข้างหน้า กับนามที่ไปซ้อนตามหลังจะต้องใส่เครื่องหมาย Comma (,) คั่นเอาไว้ทุกครั้ง ในกรณีนี้   a nonprofit charitable organization ซ้อนในส่วนที่เป็นประธาน คำว่าSave the Seas  B 4 เพราะ ใช้ to เพื่อแสดงวัตถุประสงค์

53. The first baseball caps …….A……, the Knickerbockers, around 1840, and they were       made of straw. Today they ……..B…….. and worn by people from all walks of life.     

A.  1. had worn  by the New York team 
2. had made by the New York team         
3. were sold by the New York team         
4. were worn by the New York team         
5. were made by the New York team       

B.  1.  made of different fabrics     2.  are made of  different fabrics    3.  have made of different fabrics  4. are made from different fabrics  5.  have been made of different fabrics

53.เฉลย ข้อ A 4 เพราะ The first baseball caps ถูกสวมใส่โดย the Knickerbockers ซึ่ง เป็นชื่อทีมของ baseball คงจะไม่ผลิตด้วยตนเอง B 2 เพราะใช้ made of เพราะมีคำว่า frabrics เป็นตัวบ่งบอกว่าทำด้วยวัสดุอะไรข้อแตกต่างระหว่าง made of และ made from - made of แสดงว่าทำมาจากวัสดุอะไร แล้วยังเห็นรุปร่างวัสดุนั้นอยู่ ไม่มีการแปรรูป เช่น The table is made of wood - make from จะใช้เมื่อมีการแปรรูป เช่น The wine is made from grape.

54.  ………A……... to speak Chinese when I was a kid. My dad spoke Chinese, and …….B……

A.   1. I really wish learning         2. I really wish I learned         
3. I really wish I can learn          4. I really wish I had learned       
5. I really wish I have learned     

B.    1. he writes it too   2. it is spoken too   3. he can write it too   
4. he could write it too  5. he has written it too 

54.เฉลยข้อ A 4 เพราะเป็นการแสดงความปราถนาสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ และตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต ในรูปของWish+ Past Perfect  B 4 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีคำว่า when I was a kid  เป็นตัวบ่งบอก  เพราะฉะนั้นจึงใช้ could

55.  ……..A……. how important Chinese was going to be in the future, ……..B……… .     

A.   1. If your dad knew          2. If your dad knows         
3. If your dad had known        4. If your dad was known     
5. If your dad hadn’t known     

B.   1. he will have taught you the language     
2. he would have taught you the language         
3. he was going to teach you the language       
4. he would have been teaching you the language 
5. he would very much like to teach you the language 

55.เฉลยข้อ A 3 เพราะเป็น  If-clause Type 3 ใช้กับเหตุการณ์สมมุติที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต โครงสร้างคือ If+ Past Perfect, S+would+have+V3  B 2 เพราะเมื่อข้อ A  เป็นส่วนของ If-clause แล้วเพราะฉะนั้น ข้อ B จึงเป็นส่วนของ main clause ที่สอดคล้องตามโครงสร้าง If+ Past Perfect, S+would+have+V3

56.  ………A…….., they walk leisurely ………B…….. .       

A.   1. Quickly crossing the street     
2. Instead of quickly cross the street         
3. Instead of crosses the street quickly     
4. Instead of crossing the street quickly         
5. Instead of  quickly crosses the street     

B.  1. as they have all the time in the world     
2. as if they had all the time in the world           
3. as if they have all the time in the world       
4. as if  they hadn’t all the time in the world         
5. as if they have had all the time in the world 

56.เฉลยข้อ A 4 เพราะ in stead of  เป็น preposition (บุพบท) ที่ตามด้วย gerund  B 2 เพราะ as if (ราวกับว่า ใช้กับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ต้องอยู่ในรูปของ past tense)

57.  ……..A……. is when there’s someone who is tailgating – you know, when someone is        driving right up to your back bumper. ……..B…….. crash into the rear of my car.     

A.  1.  What annoys me the most in traffic           
2.  The most annoying for me in traffic         
3.  Which annoys me the most in traffic               
4.  What annoyed me the most in traffic         
5.  What is the most annoying me in traffic     

B.  1. I feel like slamming on the breaks and letting them           
2. The feeling of slamming on the breaks and let them         
3. Feeling like slamming on the breaks and letting them         
4. I feel to like slamming on the breaks and letting them               
5. I have a feeling of slamming on the breaks and let them   
57.เฉลยข้อ A 1 เพราะจากประโยคข้างต้น what annoys me เป็นnoun clause อยู่หน้าประโยค ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค  B 1เพราะ feel like ตามด้วย gerund
58.  ………A…….., he called me for the seventh time that morning to ask ……..B…….. .     

A.   1. Exciting to his new “toy”     
2. Excited with his new “toy”
3. To be excited with his new “toy” 
4.  Being excited with his new “toy”             
5.  To have been excited with his new “toy”     

B.   1.  were there any messages for him     
2.  there were any messages for him           
3.  if there were any messages for him         
4.  that there were any messages for him             
5.  unless there were any messages for him       
58.เฉลยข้อ A 2 เพราะ excited เป็นการแสดงความรู้สึกของบุคคล  B 3 เพราะเป็น Indirect question ในกรณีที่ไม่มีคำแสดงคำถาม (what, who, …) เมื่อเพิ่มข้อความข้างหน้า do you know, tell me, …จะต้องใช้ if เข้ามาเพื่อเป็นคำเชื่อมระหว่างข้อความนำกับประโยคในคำถามเดิม

59. Nobody knows ………A…….., but police believe ……..B…….. for suitable food to take      back to their planet.     

A.    1. the aliens were doing on earth           
2. what did the aliens do on earth               
3. that the aliens were doing on earth           
4. what were the aliens doing on earth                     
5. what the aliens were doing on earth           

B.   1. they could search            2. they could be searched         
3. they could be searching         4. they might be trying to search       
5. they could have been searching       
59.เฉลยข้อ A 5 เพราะเป็น Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Wordsมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Indirect  wh-questions  และแม้ว่า noun clauses เหล่านี้จะขึ้นต้นด้วยคำแสดงคำถาม แต่ลำดับคำ (word order) ในอนุประโยคนี้ จะเป็นลำดับคำของประโยคบอกเล่า B 5เพราะ S+ could +have been+ving  แสดงถึงเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีตดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีคำว่า knows และ believe เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นปัจจุบัน

60. Orozco is renowned …….A……. on the wall of ………B……..in Mexico .     

A. 1. to the magnificent murals he painted     
2. for the magnificent murals he painted 
3. by the magnificent murals he painted         
4. of the magnificent murals he was painting     
5. as the magnificent murals he was painting     

B. 1. the Palace of Fine Art    2. the Palace with Fine Art   
3. the Palace which Fine Art   4. the Palace where Fine Art 
5. the Palace in which Fine Art
60.เฉลยข้อ A 2 เพราะ renowed ตามด้วย preposition “for”  B 1เพราะ The Palace of Fine Arts  เป็นชื่อเฉพาะของสถานที่สำคัญ คือสถานที่ที่ใช้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะ Panama–Pacific International Exposition ในปี 1915

61.  I lost my father ………A…….., and I suddenly realized that ………B…….. the same thing       happen to my kids.             

A.    1. when I was a young boy       2. what a young boy I was     
3. during I was a young boy           4. at the age of a young boy            5.  in the period of time of being a young boy             

B.    1. I am risking having          2. I was risking having         
3. I take a risk to have              4. I was risking to have         
5. I face the risk to have 
61.เฉลยข้อ A 1 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต สังเกตุจากคำว่า lost เพราะฉะนั้น when I was  young  เป็นตัวบ่งบอกเวลาที่สอดคล้องกับกริยา lost  B 2 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต จึงใช้  was และ คำว่า risk ตามด้วย gerund เสมอ

62.  ………A…….. that this contravenes the terms of the original agreement. ……B…….. as        to how we can rectify it .     

A.   1. I am sure that you will agree           
2. I am sure that you would agree         
3. I am sure that you will agree with           
4. I am sure that you would have agreed               
5. I am sure that you will have agreement             

B.   1. I await for your suggestion       
2. I also await your suggestion                     
3. I am looking for your suggestion     
4. I therefore await your suggestion               
5. I am looking forward to your suggestion
62.เฉลยข้อ A 1 เพราะข้อนี้สัมพันธ์กับข้อ B  สังเกตุจากข้อ B  เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงเลือกข้อที่ตอบว่า  I am sure that you will agree.  B 4 เพราะ await (รอคอย ตามด้วยคำนาม ต่างจาก waitต้องตามด้วย for)

63.  Animals, like humans, ……..A………. . After months and years in a cage without any        interest, ……….B……….. .     

A.   1. affect their environment           
2. are affecting their environment           
3. are generating their environment       
4. are affected by their environment         
5. are generated by their environment     

B.    1. animals begin to ruin their natural characteristics               
2. animals begin to lose their natural characteristics         
3. animals begin to spoil their natural characteristics               
4. animals begin to damage their natural characteristics                   
5. animals begin to devastate their natural characteristics       
63.เฉลยข้อ A 4 เพราะในประโยคต้องการสื่อความว่าประธานของประโยค (animals) ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ดังนั้นโครงสร้างประโยคจึงอยู่ในรูป passive voice= Subj. + be + v.3 และกริยาที่หมายถึงผลกระทบคือ affect ในขณะที่ generate หมายถึง สร้าง  B 2 เพราะ After months and years in a cage without any interest = หลังจากที่สัตว์ถูกกักขังอยู่ในกรงเป็นเวลาหลายปี โดยปราศจากความสนใจ  ทำให้สัตว์เหล่านี้เริ่มสูญเสียลักษณะความธรรมชาติของสัตว์  lose= สูญเสีย  spoil= ทำให้เสียหาย   damage, ruin,   devastate= ทำลาย

64. A horse is ……..A………,  it’s …….B…….. that can do a lot of work.     

A.   1. not a beautiful animal       2. either a beautiful animal 
3. never a beautiful animal         4. neither a beautiful animal     
5. not only a beautiful animal           

B.   1. a useful animal    2. a useless animal     3. nor a useful animal       4. also a useful animal    5. as well as useless animal 

64.เฉลยข้อ A 5 เพราะรูปประโยคส่วนแรกต้องการเชื่อมความหมายที่คล้อยตามกันกับประโยคส่วนที่สอง ดังนั้นจากความหมายของประโยคจึงควรสื่อว่าประธาน A horse= ม้า เป็นสัตว์ที่สวยงามจึงต้องใช้คำว่า not only  B 4 เพราะในประโยคแรกที่มีการใช้คำว่า not onlyดังนั้นในส่วนที่สองที่เชื่อมประโยคที่คล้อย ตามกันจึงต้องใช้ also

65.  ……..A……. by studying twice as hard, Alex did not realize …….B……. he was leading.     

A.   1. While struggled to get ahead in life         
2. While struggling to get ahead in life             
3. While I struggled to get ahead in life             
4. Being struggling to get ahead in life         
5. Being struggled to get ahead in life           

B.   1. how lonely he is          2. how is he lonely     3. what a lonely life 
4. what a lonely life is          5. what is a lonely life

65.เฉลยข้อ A 2 เพราะในส่วนนำ while ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมข้อความ While ต้องตามด้วย v.ing และในประโยคต้องการสื่อความว่า Alex เป็นผู้ที่ดิ้นรนให้ตัวเองมีชีวิตที่ก้าวหน้า ดังนั้นตัวเลือกที่ 2และ 4 ที่มีประธานคือ I จึงไม่ถูกต้อง  B 3 เพราะ  what + (a, an) adjective + noun + subject + v.  how + adjective + subject + v. ในประโยคสื่อว่า Alex didn’t realize. Alex ไมได้ตระหนักถึง……ที่เงียบเหงา ดังนั้น คำนามที่สื่อถึงในที่นี้คือ life = ชีวิต

66.  Arafat asked if Palestinian police chief Ghazi Jabali ………A……. to the West Bank       town of Ramallah ……B……. .     

A.  1. allow to travel from Gaza    2. allows to travel from Gaza 
3. allowing to travel from Gaza    4. is allowed to travel from Gaza      5. was allowed to travel from Gaza       

B. 1. attended his father’s funeral             
2. to attend his father’s funeral       
3. attending his father’s funeral                   
4. to be attended his father’s funeral                       
5. to be attentive at his father’s funeral       

66.เฉลยข้อ A 5 เพราะประโยคมีกริยาคือ asked that ซึ่งต้องตามหลังด้วยโครงสร้าง present subjunctive (subject + infinitive without to) ที่แสดงความปรารถนาในเชิงคำสั่งการขอร้องในสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ นอกจากนั้นประธานของโครงสร้าง present subjunctive (Palestinian police chief) ยังสื่อความว่าเป็นผู้ถูกกระทำ จึงต้องอยู่ในโครงสร้าง passive voice (be + v.3)  B 2 เพราะส่วนนี้ต้องการวลีทีแสดงจุดประสงค์ (The Infinitive of Purpose) ก็คือ To + Verb โดยปกติเราจะแปลคำว่า "to"  ว่า ที่จะ หรือว่า เพื่อที่จะ

61.  Spurlock decided to eat three McDonald’s meals a day for one month. …….A…….        he had imagined: By the end of the month, Spurlock ……B…….. .     

A.  1. The effects were much the worst         
2. The effects were much worse than                   
3. The affects were much worse than             
4. The products were much the worst         
5. The products were much worse than       

B.  1. gain more than 20 kilograms           
2. gained more than 20 kilograms                       
3. will gain more than 20 kilograms         
4. had gained more than 20 kilograms               
5. is going to gain more than 20 kilogram

61.เฉลย ข้อ A 2 เพราะประโยคก่อนหน้านี้บอกว่า Spurlock ได้กินอาหารที่ McDonald วันละ 3 มื้อเป็น เวลา 1 เดือน  ประโยคต่อมาจึงกล่าวถึง…….ที่เกิดขึ้น (effects= ผลกระทบ ซึ่งเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาได้จินตนาการ จึงควรอยู่ในโครงสร้างการเปรียบเทียบขั้นกว่าmuch worse than)  B 4 เพราะประโยคก่อนหน้านี้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแหล่งที่มา    ข้อ 1-61 = https://www.tutorferry.com/2018/08/M6-tcas-part-

62. While I__________to the radio, I heard a loud scream.
    1. listen                       
    2. has listened
    3. was listening         
    4. had listened

63. She__________here since she was ten years old.
    1. lived                     
    2. has lived                             
    3. had lived               
    4. had been living

64. When the policeman__________, the thief had already gone.
    1. arrived                 
    2. was arriving
    3. has arrived           
    4. had arrived

65. She enjoys__________ very much.
     1. dance                       
     2. dances
     3. to dance           
     4. dancing

66. Have you got __________cigarettes? Of course.
     1. any                     
     2. a lot
     3. some                       
     4. little

67. There are two men in the street. __________of them have a gun in their hands.
    1. All                         
    2. Every
    3. Both                     
    4. A lot of

68. If I __________ to the party last night, I would have sung and danced with my friends.
    1. go                         
    2. went
    3. had gone                 
    4. have gone

69. When I saw him yesterday, he was __________on a chair.
    1. sit                         
    2. sits
    3. sitting                   
    4. sat

70. We have been here __________two months.
    1. in                         
    2. before
    3. since                       
    4. for

71. Sarah and Nawinta __________ want a big wedding.
    1. isn’t                       
    2. don’t
    3. aren’t                   
    4. doesn’t 

72.  The post office usually __________ at 5.30 pm.
    1. close                 
    2. closes
    3. closed                     
    4. closing

73.  If you heat water, it__________.
    1. boil                   
    2. boils
    3. boiled                   
    4. boiling 

74.  Those shirts __________expensive. I don’t need to buy them.
     1. is                         
     2. are
     3. has                   
     4. have

75.  My mom __________ coffee every morning.
     1. drink               
     2. don’t drink
     3. doesn’t drink     
     4. have drunk

76.  This is not an easy question __________ answer.
     1. to                 
     2. for
     3. that                     
     4. with

77.  If the teacher__________too fast, students won’t understand.
     1. explain               
     2. explains
     3. explained           
     4. had explained

78.  Some__________ feel frightened of the dark.
     1. boy                       
     2. child
     3. children               
     4. person

79.  This is my best friend__________always helps me.
     1. who                 
     2. that
     3. which           
     4. whom

80.  Yaya is__________ beautiful than Tukky.
     1. as                       
     2. more
     3. most                 
     4. the most

81. The baby is crying! Will you……while I prepare his milk.
    1. tear him up
    2. look after him
    3. care him
    4. make him up

82. Your pen’s on the floor.
   1. Pick it up!
   2. Pick up it!
   3. Take it up!
   4. Take up it!

83. Children shouldn’t leave their toys on the floor. They should……
   1. put out them
   2. put off them
   3. put them away
   4. put them off

84. You don’t need your hat.
   1. Put off it!
   2. Put it off!
   3. Take off it!
   4. Take it off!

85. You’ll get cold without your coat.
   1. Take on it!
   2. Take it on!
   3. Put on it!
   4. Put it on!

86.  ……the children for me while I’m out.
   1. Look after
   2. Look to
   3. Take care
   4. Care

87. He failed the examination three times but…..he passed.
   1. at the end
   2. at finish
   3. at least
   4. at last

88. His parents died when he was young so he was……by his aunt.
   1. brought out
   2. grown up
   3. brought up
   4. grown

89. My car…….so I had to come by bus.
   1. fell down
   2. fell over
   3. broke down
   4. broke up

90. If you don’t……smoking you’ll never get better.
   1. give off
   2. give out
   3. give from
   4. give up

91. He was called up a few weeks after he left school. He was......
   1. challenged to fight
   2. sent into the army
   3. telephoned
   4. killed

92. You can be sure I will back him up. I will
   1. make him angry
   2. follow him
   3. accuse him
   4. support him

93. I suppose he was bored by her, but he shouldn’t have cut her short. He shouldn’t have.
   1. removed so much of her hair
   2. ignored her
   3. interrupted her
   4. made her dress so small

94. Boys tend to look down on their younger sisters. They tend to
   1. despis them
   2. take care of them
   3. be taller than them
   4. be indifferent to them

95. His wife has bought a new car, but he’s keeping it dark.
   1. He doesn’t know about it
   2. He hasn’t told anyone
   3. He’s going to paint it black
   4. He hasn’t paid for it yet

96. I have decided to join forces with my brother. I have decide to
   1. fight him
   2. go into army with him
   3. collaborate with him
   4. compete against him

97. Attendances at football matches have..….since the coming of television.
   1. dropped off
   2. dropped down
   3. fallen off
   4. got down

98. If you want to make progress in this firm, you must….the boss.
   1. keep in with
   2. keep on at
   3. keep away from
   4. keep up with

99. A dead rabbit was lying in the road; it had been……by a car.
   1. run across
   2. run through
   3. run over
   4. run on

100. The plane circled the airport twice before
   1. touching down
   2. stopping over
   3. taking off
   4. turning up

62. เฉลยข้อ 3  was listening
While I was listening to the radio, I heard a loud scream.
ในขณะที่ฉันกำลังฟังวิทยุฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง
เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีก
เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก 
“ฉันกำลังฟังวิทยุ” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous
(รูปกริยา was/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple
รูปกริยา past (V2)
ข้อ 1 listen (Present Simple)
ข้อ 2 has listened (Present perfect)
ข้อ 4 had listened  (Past Perfect)

63. เฉลยข้อ 2  has lived
She has lived here since she was ten years old.
หล่อนเคยอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่หล่อนอายุ10 ปี
เป็นประโยคที่บอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ หล่อนอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 10 ปี และปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นต้องใช้
Present perfect  รูปกริยา have, has + past participle (V3)
และประโยคนี้ใช้ since เป็นตัวขยายบอกเวลา ซึ่ง since (แปลว่า ตั้งแต่) เป็นการบอกเวลา
เริ่มต้นของเหตุการณ์ สิ่งที่ตาม since อาจระบุเป็น เวลา หรือ วัน หรือ เดือน หรือ ปี หรือ เป็นประโยคที่บอกถึงเหตุการณ์ที่บอกให้รู้ว่า เหตุการณ์หรือการกระทำที่กล่าวถึงนั้นเกิดขึ้น
ตั้งแต่เมื่อใด โดยที่ประโยคที่ตามหลังsince ต้องอยู่ในรูป Past Simple รูปกริยา past (V2)
ข้อ 1 lived   (Past Simple)
ข้อ 3 had lived  (Past Perfect)
ข้อ 4 had been living (Past Perfect Continuous)

64. เฉลยข้อ 1  arrived
When the policeman arrived , the thief had already gone.
เมื่อตำรวจมาถึงโจรก็ไปแล้ว  ในกรณีนี้ต้องใช้ Past Simple เพราะเหตุการณ์ที่ตำรวจมาถึงเกิดหลังจากเหตุการณ์ที่โจรไปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงก่อนใช้ Past Perfect รูปกริยา had+ past participle (V3)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงทีหลังใช้ Past Simple รูปกริยา past (V2)
ข้อ 2 was arriving   (Past Continuous)
ข้อ 3 has arrived  (Present Perfect)
ข้อ 4 had arrived  (Past Perfect)

65. เฉลยข้อ 4  dancing
She enjoys dancing very much.    เธอสนุกกับการเต้นรำมากๆ หลัง enjoy ต้องตามด้วย Gerund  (V+ing) เท่านั้น

66.เฉลยข้อ 1  any บ้าง,จำนวนหนึ่ง
Have you got any cigarettes?  Of course.   คุณมีบุหรี่บ้างไหม? มีany บ้าง,จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ
ข้อ 2 must ต้อง
ข้อ 3 some บ้าง,จำนวนหนึ่งใช้กับคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า
ข้อ 4 little ปริมาณเล็กน้อย (little + นามนับไม่ได้)

67. เฉลยข้อ 3  Both ทั้งสอง
There are two men in the street. Both of them have a gun in their hands.
มีผู้ชายสองคนอยู่บนถนนพวกเขาทั้งสองคนมีปืนอยู่ในมือ
ข้อ 1 All ทั้งหมด
ข้อ 2 Every ทุกๆ
ข้อ 4 A lot of จำนวนมาก

68. เฉลยข้อ 3  had gone
If I had gone to the party last night, I would have sung and danced with
my friends. ถ้าฉันไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ฉันก็จะได้ร้องเพลงและเต้นรำกับเพื่อนๆ ประโยคเป็น If clause Type  3  ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จากประโยคนี้ แสดงว่าผู้เขียน(I)ไม่ได้ไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ก็เลยไม่ได้ร้องเพลงเต้นรำกับเพื่อนๆ
โครงสร้างประโยค
If + Past Perfect (had+V3) , would + have + past participle (V3)
ข้อ 1 go  (Present Simple)
ข้อ 3 went  (Past Simple)
ข้อ 4 have gone  (Present Perfect)

69. เฉลยข้อ 3  sitting
When I saw him yesterday, he was sitting on a chair.
ตอนที่ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้
เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก 
“เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันเห็นเขา”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous
(รูปกริยา was/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple
รูปกริยา past (V2)

70.เฉลยข้อ 4  for
We have been here for two months.
พวกเราอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองเดือนแล้ว
for แปลว่า เป็นเวลา  ใช้บอกระยะเวลาที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น
ข้อ 1 in ใน
ข้อ 2 before  ก่อน
ข้อ 3 since ตั้งแต่

71. เฉลยข้อ 2  don’t
Sarah and Nawinta don’t want a big wedding.
Sarah และ Nawinta ไม่ต้องการงานแต่งงานแบบใหญ่โต
การทำประโยคให้เป็นปฏิเสธ ทำได้โดย นำ not ไปวางไว้หลังกริยาช่วย แต่ประโยคนี้ไม่มีกริยาช่วย มี want เป็นกริยาแท้ของประโยคแล้ว กรณีที่ประโยคไม่มีกริยาช่วย ต้องนำ
Verb to do มาช่วย ประโยคนี้พูดถึงข้อเท็จจริง ใช้โครงสร้าง Present Simple (รูปกริยา Verb 1) และมี Sarah and Nawinta เป็นประธานพหูพจน์ดังนั้น Verb to do ที่นำมาช่วยจึงต้องใช้ do มาช่วยในการทำเป็นปฏิเสธ

72. เฉลยข้อ 2  closes
The post office usually closes at 5.30 pm. โดยปกติที่ทำการไปรษณีย์ปิดห้าโมงครึ่ง
ประโยคนี้เป็น Present Simple สังเกตจาก usually ดังนั้น กริยาต้องเป็น Verb 1 และThe  post office เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3  close จึงต้องเติม s เป็น closes

73. เฉลยข้อ 2  boils 
If you heat water, it boils.   ถ้าคุณต้มน้ำ มันก็เดือด
เป็น If Clause Type 1 ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง
โครงสร้าง If + Present Simple (V1), Present Simple (V1)

74. เฉลยข้อ 2  are
Those shirts are expensive. I don’t need to buy them.
เสื้อเชิ้ตเหล่านั้นราคาแพงจัง ฉันไม่อยากซื้อมันเลย
ตามโครงสร้าง Sub.+Verb to be + Adj. Those shirts เป็นประธานพหูพจน์จึงต้องใช้ are

75. เฉลยข้อ 3  doesn’t drink
My mom doesn’t drink coffee every morning.
แม่ของฉันไม่ดื่มกาแฟทุกเช้า
สังเกตจากคำว่า every morning บอกให้รู้ว่า ประโยคเป็น Present Simple รูปกริยา V1
My mom เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s (does ก็คือ do เติม es)

76. เฉลยข้อ 1  to
This is not an easy question to answer.   คำถามนี้มันไม่ง่ายที่จะตอบ เป็นการใช้ to + infinitive  ที่รูปประธานกลายเป็นกรรม ของ to infinitive
คำนาม หรือ คำสรรพนาม ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานของรูป linking verb (กริยาที่ใช้เชื่อม
ประโยค) + คำคุณศัพท์ (adjective) สามารถใช้เป็นกรรม (objective) ของกริยา to
infinitive ที่ตามมา ในภาคส่วนเติมเต็ม (complement) ของประโยค เช่น
Science programmes are so interesting to watch.
รายการวิทยาศาสตร์มันน่าสนใจที่จะดู
These nuts are good to eat
ถั่วเหล่านี้มันดีที่จะกิน

77. เฉลยข้อ 2  explains
If the teacher explains too fast, students won’t understand. 
ถ้าครูอธิบายเร็วเกินไป นักเรียนก็จะไม่เข้าใจ  (won’t = will not) เป็น If Clause ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกันและเป็นจริงได้
If + Present Simple (V1), Future Simple (will+ V1)

78. เฉลยข้อ 3  children
Some children feel frightened of the dark. เด็กๆบางคนรู้สึกตกใจกลัวความมืด
some หมายถึง จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้  และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า ในที่นี้ children เป็นคำนามนับได้พหูพจน์ ส่วน boy, child และ person เป็นคำนามนับได้เอกพจน์

79. เฉลยข้อ 1  who หมายถึง ผู้ซึ่ง, ผู้ที่
This is my best friend who always helps me.
นี้คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันผู้ที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอมา   
who เป็น Relative pronoun ที่ใช้แทนคำนามที่เราต้องการกล่าวซ้ำ โดยใช้แทนคำนามที่เป็นคน ในที่นี้ แทน my best friend  that และ which ใช้แทนสัตว์ สิ่งของ ส่วน whom ใช้แทนคนในกรณีที่เป็นกรรม

80. เฉลนข้อ 2  more
Yaya is more beautiful than Tukky.    ญาญ่าสวยกว่าตุ๊กกี้
จากประโยคที่กำหนดเป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า สังเกตได้จากคำว่า than Comparative การเปรียบเทียบขั้นกว่า เป็นการเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ประโยคเปรียบเทียบขั้นกว่า คำคุณศัพท์ที่ใช้เปรียบเทียบต้องเปลี่ยนเป็น คำคุณศัพท์ขั้นกว่า (Comparative Adjective) โดยการเติม -er หลังคำคุณศัพท์ที่มี 1-2 พยางค์ (มีรายละเอียดปลีกย่อยอีก ควรศึกษาเพิ่มเติม)  และใช้ more วางหน้าคำคุณศัพท์ที่มีสามพยางค์ขึ้นไป
ดังเช่นข้อนี้  beautiful ต้องใช้ more  ส่วน as ใช้เปรียบเทียบเท่ากัน และ the most ใช้เปรียบเทียบขั้นสุด

81. เฉลยข้อ 2  ประโยคมีความหมายว่า “เด็กกำลังร้องไห้ ช่วยเลี้ยง (look after) ให้หน่อยขณะที่ฉันชงนมได้ไหม?”

82. เฉลยข้อ 1  ประโยคมีความหมายว่า “ปากกาของคุณอยู่บนพื้น”
หยิบขึ้นมาสิ = Pick it up l”

83. เฉลยข้อ 3  ประโยคมีความหมายว่า “เด็ก ๆ ไม่ควรทิ้งของเล่นบนพื้น ควรเก็บเอาไว้บนที่ (put them away)”
put out = ดับไฟ put off = เลื่อนไป

84. เฉลยข้อ 4  ประโยคมีความหมายว่า “คุณไม่ต้องการสวมหมวก” “ก็ถอดออกเสีย Take it off!”

85. เฉลยข้อ 4  ประโยคมีความหมายว่า “คุณจะเป็นหวัดถ้าไม่สวมเสื้อ โค๊ท” สวมเสื้อโค๊ทเสีย (Put it on !)

86. เฉลยข้อ 1  ประโยคมีความหมายว่า “ดูแลเลี้ยงดู (Look after) พวก ลูกๆ แทนฉันขณะที่ฉันออกไปข้างนอก”

87. เฉลยข้อ 1  ประโยคมีความหมายว่า “เขาสอบตกสามครั้งแต่ในที่สุด (at the end) เขาก็สอบผ่าน”

88. เฉลยข้อ 3  ประโยคมีความหมายว่า “บิดามารดาของเขาตายตั้งแต่เขายังเล็ก ดังนั้นเขาจึงได้รับการเลี้ยงดู (brought up) จากป้าของเขา”

89. เฉลยข้อ 3  ประโยคมีความหมายว่า “รถของฉันเสีย    (broke down) ดังนั้นฉันต้องไปรถเมล์”
broke up = แตกเป็นชิ้น

90. เฉลยข้อ 4  ประโยคมีความหมายว่า “ถ้าคุณไม่เลิก        (give up) สูบบุหรี่คุณไม่มีทางอาการดีขึ้น”
give off = ส่งออกไป
give out = ใช้หมด

91. เฉลยข้อ 3  called up = telephoned; โทรศัพท์

92. เฉลยข้อ 4  back him up = support him; ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ

93. เฉลยข้อ 3  cut her short = interrupted her; แทรกแซงเพื่อให้เธอพูดให้สั้นลง

94. เฉลยข้อ 1  look down on = despise them; ดูถูก, เหยียดหยาม

95. เฉลยข้อ 2  keeping it dark = He hasn’t told anyone; ปิดเป็นความลับ

96. เฉลยข้อ 3  Join forces = collaborate with him; รวมกำลัง, ทำด้วยกัน

97. เฉลยข้อ 1  ความหมายของประโยค “ผู้ชมการแข่งขันฟุตบอลลดน้อยลง (dropped off) ตั้งแต่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์”

98. เฉลยข้อ 1  ประโยคมีความหมายว่า “ถ้าคุณต้องการความก้าวหน้าในการงาน คุณต้องเข้ากับ (keep in with) เจ้านายให้ได้”

99. เฉลยข้อ 3  ประโยคมีความหมายว่า “กระต่ายที่นอนตายอยู่บนถนนถูกรถยนต์ชน (run over)”
run across – พบโดยบังเอิญ
run through = ใช้หมดเกลี้ยง
run on = พูดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

100. เฉลยข้อ 1  ประโยคมีความหมายว่า “เครื่องบินบินรอบสนามบินสองครั้งก่อนร่อนลง (touching down)”
stopping over = หยุดพักระหว่างเดินทางไกล
taking off = เครื่องบินออก
turning up = ปรากฎ, มาถึง
https://www.tutorferry.com/2019/03/English-Test-M4.html?m=1
http://www.engisfun.com/ข้อสอบเข้าเตรียมอุดม/